จับตาราคาพลังงานหลังหมดโปร-รัฐเลิกอุ้ม เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด รายงานพิเศษ แม้ช่วงต้นเดือนเม. ย. ที่ผ่านมา (4-8 เม. 2565) สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกและอุปทานตึงตัวน้อยลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ในเมืองเซี่ยงไฮ้ของจีน พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 20, 000 ราย ทำให้จีนต้องประกาศล็อกดาวน์เป็นระยะเวลากว่า 9 วัน (ตั้งแต่วันที่ 28 มี. ค-5 เม. 2565) กอปรกับองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 2. 4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 412 ล้านบาร์เรล สหรัฐ และของ IEA ประกาศจะปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองยุทธศาสตร์ (SPRs) เป็นครั้งที่ 2 จำนวน 120 ล้านบาร์เรล ซึ่งครึ่งหนึ่งมาจากสหรัฐประกาศจะปล่อยเพิ่มอีก 60 ล้านบาร์เรล รวมปริมาณทั้งหมด 240 ล้านบาร์เรล คาดว่าจะช่วยทดแทนน้ำมันดิบที่หายไปจากรัสเซีย และบรรเทาอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวได้ในระยะสั้น เห็นได้จากราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ต้นเดือนเม. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 98. 26 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 102. 78 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 98. 22 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังคงยืดเยื้อ และทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดมีความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบจะตึงตัวขึ้นอีกครั้ง จากมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของสหรัฐและยุโรป ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบผันผวนในระดับสูงในระยะข้างหน้า โดย นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช. )
สยามรัฐออนไลน์ 14 เมษายน 2565 15:13 น.