ข้าวสาร หลังจากเช็ดคราบน้ำและความชื้นออกพอสมควรแล้ว ให้นำโทรศัพท์มือถือไปใส่ไว้ในถังข้าวสาร เพื่อให้ข้าวสารช่วยดูดความชื้นที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ในส่วนของอุปกรณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยอาจทิ้งไว้เป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าความชื้นได้หายไปหมดแล้วจริงๆ 7. ประกอบมือถือ เมื่อปฏิบัติทุกขั้นตอนข้างต้นเรียบร้อยแล้ว และแน่ใจว่าทุกส่วนของตัวเครื่องปราศจากน้ำและความชื้นแล้ว ให้นำซิมการ์ด แบตเตอรี่ หน้ากาก ฝาหลัง และส่วนอื่นๆ ที่เราถอดออกไปก่อนหน้านี้ มาประกอบกลับเข้าที่ตามเดิม 8. อย่าชาร์จไฟ หลังจากประกอบตัวเครื่องเรียบร้อยดีแล้ว ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ในทันที เนื่องจากวงจรภายในอาจจะยังไม่พร้อมที่จะรับกระแสไฟฟ้า 9. ตรวจสอบ จากนั้นให้ลองเปิดเครื่อง หากสามารถเปิดได้ก็ให้ตรวจสอบอาการผิดปกติอื่นๆ ในการใช้งานพื้นฐานทันที เช่น หน้าจอติดหรือไม่, โทรออกโทรเข้าได้หรือไม่, ลำโพงดังหรือไม่ ปุ่มกดใช้งานได้ทุกปุ่มหรือไม่, กล้องถ่ายได้หรือไม่ ตรวจเจอการ์ดหน่วยความจำหรือไม่ หรือยังใช้งานเมนูหรือฟังก์ชันต่างๆ ได้ปกติหรือไม่ 10. วัดดวง หากลองใช้งานดูแล้วไม่พบปัญหาใดๆ สามารถใช้งานได้ตามปกติ ก็ถือว่าโชคดีอย่างมาก แต่หากโชคร้ายต้องเจอกับปัญหาตามมา ก็นำเครื่องไปให้ศูนย์หรือช่างผู้ชำนาญช่วยจัดการให้อีกครั้งหนึ่ง แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว แม้จะมีการดูแลดีและรวดเร็วแค่ไหน หลังจากที่โทรศัพท์มือถือสัมผัสกับน้ำ ผู้ใช้ก็มักจะพบกับปัญหาที่ตามมาอยู่เสมอ อาจจะโชคร้ายจนถึงขั้นเสียถาวร ซึ่งก็คงจะต้องทำใจกันเอาไว้ล่วงหน้าด้วยว่าคุณอาจจะไม่โชคดีก็เป็นได้
มือถือเปียกน้ำทำไงดี?? ถ้าไม่อยากให้มือถือพังเพราะเปียกน้ำต้องดู!!! - YouTube
นับถอยหลังต่อจากนี้ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้วก็จะถึงช่วงเวลาของประเพณีสงกรานต์กันอีกแล้วนะครับ เราเชื่อว่าในตอนนี้มีหลายคนนับวันตั้งตารอที่จะได้หยุดและเตรียมตัวอออกไปเล่นน้ำในวันสงกรานต์ให้คลายร้อนกันแล้วอย่างแน่นอน… แต่ก่อนที่จะออกไปเล่นน้ำให้ชื่นใจกัน วันนี้ทางทีมงานมีเทคนิคง่ายๆ ในการดูแลรักษาโทรศัพท์เครื่องรักของคุณมาแนะนำกัน หากว่าเกิดอุบัติเหตุโทรศัพท์ต้องโดนน้ำเข้าในวันสงกรานต์อย่างกรณีโทรศัพท์บังเอิญเปียกน้ำขึ้นมา โทรศัพท์เปียกน้ำ ปัญหาง่ายๆที่มีทางแก้ไข มาดูกันครับว่าหากโทรศัพท์เครื่องรักของเราเปียกน้ำ เบื้องต้นเราสามารถทำอะไรได้บ้าง? อย่าเพิ่งเปิดเครื่องเด็ดขาด กฎแรกหาก "โทรศัพท์เปียกน้ำ" คือต้องจำไว้เสมอว่าไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแแต่ ห้าม!
1. มือถือตกน้ำ เมื่อทำโทรศัพท์มือถือตกน้ำหรือโดนความชื้น ควรรีบนำออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด และอย่าเพิ่งกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเด็ดขาด เนื่องจากอุปกรณ์ยังเปียกน้ำและมีความชื้น การกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง อาจทำให้เกิดการลัดวงจรและเสียหายถาวรได้ 2. แยกส่วนประกอบ จากนั้นควรรีบถอดและแกะส่วนประกอบต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือออกจากกันอย่างรวดเร็ว (ส่วนประกอบที่สามารถถอดได้เองตามปกติ) ไม่ว่าจะเป็น ซิมการ์ด, แบตเตอรี่, หน้ากาก, ฝาหลัง และส่วนอื่นๆ 3. เช็ดให้แห้ง เมื่อถอดส่วนประกอบต่างๆ ที่สามารถถอดได้เรียบร้อยแล้ว ให้สลัดน้ำออกจากโทรศัพท์มือถือด้วยแรงพอประมาณ และใช้ผ้าชนิดที่ไม่มีขนหรือกระดาษทิชชูคุณภาพดีไม่เป็นขุย มาซับน้ำให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออาจจะใช้พัดลมช่วยเป่าด้วยก็ได้ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน 4. ไดร์เป่าผมต้องห้าม มีคนจำนวนไม่น้อยที่นิยมใช้ไดร์เป่าผมมาเป่าโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะลมจากไดร์เป่าผมมีความร้อนสูง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อโทรศัพท์มือถือและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในได้ 5. แดดมันร้อน การนำโทรศัพท์มือถือที่เปียกน้ำหรือโดนความชื้นไปตากแดด ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรเช่นกัน เพราะความร้อนจากแดดนั้นสูงเกินไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายเช่นเดียวกับการนำไดรืมาเป่าได้ 6.
โทรศัพท์ตกน้ำ โทรศัพท์เปียกน้ำ ทำยังไงดี? ซ่อมได้มั้ย? โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ตลาดตอนนี้ มักจะมีฟีเจอร์กันน้ำ แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ รุ่นที่ยังไม่มีคุณสมบัตินี้ ซึ่งถ้าใครหลายๆ คนทำพลาดน้ำหกใส่ หรือตกน้ำซักจุด คงต่างต้องอุทานตามๆ กันว่า "ซวยแล้ว" รูปที่ถ่ายเอาไว้ เบอร์โทรศัพท์ต่างๆ รวมไปถึงไฟล์งานที่บันทึกไว้ในเครื่อง ไหนจะพาสเวิร์ดบางบริการที่จำไม่ได้อีก ถ้ามีบันทึกไว้ในคลาวด์ก็ยังพอกู้มาได้ แต่ถ้าไม่มีละก็... "จบกัน" บทความเกี่ยวกับ มือถือตกน้ำ อื่นๆ แต่เอาจริงๆ อย่าเพิ่งหมดหวัง เมื่อมือถือตกน้ำ ไม่ได้แปลว่ามันจากเราไปทันที แต่ถ้าเราแก้ปัญหาเบื้องต้นได้เร็วและถูกต้อง ก็ยังพอจะนำกลับมาใช้งานได้อยู่ เกิดอะไรขึ้น? เมื่อ โทรศัพท์ตกน้ำ หรือ เปียกน้ำ?
ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ หรือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ล้วนเป็นสิ่งที่เราทุกคน ต่างก็ขาดไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน สิ่งที่จะนำติดตัวเราไปตลอดเวลา ก็คือ โทรศัพท์มือถือ นี่แหล่ะ ที่เป็นเพื่อนสนิทของเราจริงๆ แต่! ถ้าบังเอิญ เราทำเพื่อนสนิทของเรา ตกน้ำ หรือ เปียกน้ำล่ะ จะทำยังไงดี โดยเฉพาะหน้าฝนแบบนี้ซะด้วยสิ นี่เป็น วิธีแก้ไขเบื้องต้น ในกรณีที่ เราทำ โทรศัพท์มือถือเปียกน้ำ หรือ ตกน้ำ โทรศัพท์มือถือ ตกน้ำ หรือ เปียกน้ำ 1. อย่ากดปุ่มใดๆทั้งสิ้น โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง จะมีวงจรไฟฟ้า หรือ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่มีแบตเตอรี่ อยู่ในตัวเครื่อง ถ้าหากโทรศัพท์มือถือตกน้ำแล้วล่ะก็ ให้เราเก็บขึ้นมา และ อย่าพยายามกดปุ่มใดๆทั้งสิ้น เพราะจะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เครื่องช็อตได้ง่ายๆ 2. รีบถอดแบตเตอรี่ออกทันที การถอดแบตเตอรี่ออก เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะจะเป็นการตัดไฟ การทำงานของโทรศัพท์มือถือได้ทันที อย่าลืมถอด ซิมการ์ด และ เม็มโมรี่การ์ดออกด้วยนะครับ 3. ข้าวสารช่วยได้ หลังจากถอดแบตเตอรี่ ซิมการ์ด และ เม็มโมรี่การ์ด ออกเรียบร้อยแล้ว ให้เราใช้ผ้าแห้งเช็ด ทำความสะอาดเครื่องในทุกๆส่วน ที่เราสามารถทำได้ พยายาม เช็ดน้ำออกให้ได้มากที่สุด หลังจากนั้น ก็นำทั้งโทรศัพท์ และ แบตเตอรี่ แช่ลงในถังข้าวสาร (ประมาณ 2วัน) เพราะ ข้าวสาร จะช่วยดูดความชื้นให้หมดไปได้ 4.
ประกอบเครื่อง หลังจากที่เราแช่ถังข้าวสาร ครบ 2 วันแล้ว ลองตรวจสอบเครื่องดูว่า ยังมีเศษน้ำ ตกค้างอยู่ในเครื่องอีกหรือไม่ (ลองสะบัดเครื่องไปมา) หากไม่มีเศษน้ำแล้ว ให้เรา นำเครื่องมาประกอบ เข้าเหมือนเดิม ลองเปิดเครื่อง และ เช็คการทำงานต่างๆ ของเครื่องดูว่า มีส่วนไหนที่ไม่ทำงาน หรือ ผิดปกติ หรือไม่ เช่น โทรเข้า-ออกไม่ได้ ลำโพงไม่ดัง หน้าจอเลื่อนไม่ได้ เป็นต้น แต่! ส่วนมาก ถ้าได้ทำตามวิธีที่กล่าวมาข้างต้น เครื่องจะใช้ได้ตามปกติ 5. ทางออกสุดท้าย เข้าศูนย์ ถ้าหากทำตามที่กล่าวมาแล้ว ยังไม่สามารถใช้งานได้อีก ก็คงต้องส่งเข้าศูนย์ ให้ช่างแก้ไขดูแล้วล่ะครับ ซึ่งอาจจะมี ค่าใช้จ่าย ในการซ่อม เพราะทางศูนย์จะไม่รับประกันเครื่องที่ตกน้ำ หรือเปียกน้ำ (นอกเสียจาก โทรศัพท์มือถือเป็นรุ่นใหม่ๆ ที่มีฟีเจอร์กันน้ำได้) วิธีที่เราแนะนำนี้ เป็นวิธีการแก้ไขเพียงเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าหากเครื่องเราใช้ได้เป็นปกติแล้วล่ะก็ ประมาณสักหนึ่งเดือน ลองถอดโทรศัพท์ มาเช็คดูว่า ตามขั้วแบตฯ หรือ ช่องเสียบซิม ที่เป็นโลหะนั้น มีสนิมเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีก็ให้ช่าง ทำการล้างสนิมออก ก็สามารถใช้งานได้อีกนานเลยล่ะครับ Post Views: 19
พร้อมภาพถ่าย วิดีโอตอนแกะกล่อง [[ นโยบายการรับคืนสินค้า]] -สามารถบิดด้ามจับ ดันและดึงได้อย่างคล่องตัว หมุนทุกทิศทาง สามารถทำความสะอาดมุมขาตั้งโซฟา เก้าอี้และโต๊ะ หรือบริเวณพื้นแนวราบทั่วทุกมุมห้อง สินค้า 7 วัน ต้องมีอุปกรณ์ครบถ้วน พร้อม กล่องสินค้า ถ้าไม่มีกล่องสินค้าทางเราจะส่งซ่อมทันที -ชาร์จตัวเครื่องอัตโนมัติเพียงวางบนฐานเครื่องเบาๆ สามารถหยิบใช้งานได้ทันที ใช้งานไร้สาย ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของพื้นได้อย่างง่ายดาย
6V ทางร้านไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ต้องขออภัยลูกค้าด้วยจ้า น้ำหนักสุทธิ :ประมาณ 11. 8 กิโลกรัม ขนาด :270*270*1110 มิลลิเมตร กรณีส่งสินค้ามาตรวจสอบ ให้แนบเลขคำสั่งซื้อและเบอร์โทรศัพท์ทุกครั้ง หากไม่มีการแนบมาจะไม่สามารถตรวจสอบพัสดุของท่านได้ หากพัสดุไม่สามารถติดต่อได้เกิน 60 วันทางร้านขอสงวนสิทธ์ในเก็บรักษา หรือชดเชยค่าเสียหายทุกกรณี ตัวเครื่อง ฐานเครื่อง -ถูทำความสะอาดพื้น 15 ครั้ง/วินาที แรงถูทรงพลัง ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก การชาร์จแบตเตอรี่ :28V-1.
มี $หุ้น สระน้ำเป่าลม 30 นิ้ว ลายโลมา ฟรีซองโทรศัพท์สุดน่ารัก/อ่างน้ำ อยู่ในสต็อก แต่จำนวนสินค้าในสต็อกอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดเนื่องจากร้านนี้จำหน่ายในฟอรัมอื่น ๆ สินค้าโรงงาน มี มอก. อ่างน้ำเป่าลมขนาดเล็ก เล่นเพื่อความสนุกสนาน FREE 1 Mobile pocket Swimming Pool small size 30'' ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 นิ้ว ลึก 25 ซม. พื้นนิ่ม วัสดุ PVC สีพิมพ์ปลอดสารพิษ ทัพพีตักข้าว ฟางข้าวสาลี ข้าวไม่ติดทัพพี ดีไซน์ สวยงาม วัสดุปลอดภัย แถมซองโทรศัพท์กันน้ำ 1 ชิ้น Packing 1 Pcs. no Air Pumper For 3 years to up บรรจุ 1 ชิ้น ไม่มีแถมที่สูบลม Material PVC and Non Toxic print สำหรับเด็ก 3 ปีขึ้นไป